หัวข้อ
- #คุณค่าทางโภชนาการของกล้วย
- #อาหารเพื่อสุขภาพ
- #การบริโภคกล้วย
- #ประโยชน์ของกล้วย
- #ผลข้างเคียงของกล้วย
สร้าง: 2024-11-09
อัปเดต: 2024-11-09
สร้าง: 2024-11-09 18:46
อัปเดต: 2024-11-09 18:47
ถ้าพูดถึงผลไม้ที่ดีต่อสุขภาพ คุณนึกถึงอะไรคะ? ส่วนฉันนึกถึงกล้วยทันทีเลยค่ะ กล้วยทั้งอร่อยและทานง่าย ฉันเลยทานบ่อยมาก ไม่ว่าจะเวลาไหนหรือที่ไหน วันนี้เราจะมาเรียนรู้เกี่ยวกับสรรพคุณและผลข้างเคียงของกล้วยอย่างละเอียดกันค่ะ ไปเรียนรู้พร้อมกันเลยไหมคะ?
กล้วยเป็นหนึ่งในผลไม้ที่ได้รับความนิยมมากที่สุดทั่วโลก ด้วยรสชาติหวานและนุ่มละมุน พร้อมคุณค่าทางโภชนาการสูง จึงเป็นที่รู้จักกันดีว่าเป็นอาหารที่ดีต่อสุขภาพ ส่วนใหญ่ปลูกในเขตร้อนและกึ่งร้อน และมีหลากหลายสายพันธุ์และขนาด
สารอาหารหลักๆ ได้แก่ คาร์โบไฮเดรต, เส้นใยอาหาร, วิตามินซี, โพแทสเซียม, แมกนีเซียม ฯลฯ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเป็นที่นิยมในหมู่นักกีฬาหรือผู้ที่กำลังควบคุมน้ำหนัก ช่วยในการย่อยอาหารและป้องกันอาการท้องผูก ช่วยควบคุมความดันโลหิตและรักษาสมดุลของน้ำในร่างกาย นอกจากนี้ กล้วยยังอุดมไปด้วยทริปโตเฟน ซึ่งเป็นกรดอะมิโนที่ช่วยลดความเครียดและทำให้รู้สึกดีขึ้น
เช่นเดียวกับที่กล่าวมา กล้วยทานง่าย อร่อย และให้ประโยชน์ต่อสุขภาพมากมาย แต่การบริโภคมากเกินไปอาจทำให้เกิดผลข้างเคียงได้ ดังนั้นจึงควรทานในปริมาณที่เหมาะสม
ถ้าดูรายละเอียดสารอาหาร จะพบว่ากล้วย 100 กรัมให้พลังงานประมาณ 93 กิโลแคลอรี และมีคาร์โบไฮเดรตประมาณ 21 กรัม น้ำตาลส่วนใหญ่ประกอบด้วยกลูโคสและฟรุกโตส มีโปรตีน 1 กรัม และไขมัน 0.3 กรัม
แร่ธาตุ ได้แก่ โพแทสเซียม ประมาณ 360 มิลลิกรัม ซึ่งช่วยในการขับโซเดียมออกจากร่างกาย ช่วยควบคุมความดันโลหิตและรักษาสมดุลของน้ำในร่างกาย นอกจากนี้ยังมีแมกนีเซียม 35 มิลลิกรัม ธาตุเหล็ก 0.3 มิลลิกรัม และแคลเซียม 4 มิลลิกรัม
วิตามิน ได้แก่ วิตามินซี 10 มิลลิกรัม วิตามินบี 6 0.32 มิลลิกรัม ฯลฯ ซึ่งช่วยเสริมสร้างระบบภูมิคุ้มกันและบำรุงผิวพรรณ นอกจากนี้ยังมีไฟเบอร์ประมาณ 3 กรัม ช่วยในการย่อยอาหารและป้องกันอาการท้องผูก
ด้วยสารอาหารมากมาย ทำให้กล้วยมีสรรพคุณมากมายต่อสุขภาพ สรรพคุณหลักๆ มีดังนี้
1. ให้พลังงาน: อุดมไปด้วยคาร์โบไฮเดรตและน้ำตาลที่เปลี่ยนเป็นพลังงานได้อย่างรวดเร็ว เหมาะสำหรับการเติมพลังงานก่อนและหลังออกกำลังกาย หรือในช่วงเวลาที่เร่งรีบ
2. ควบคุมความดันโลหิต: อุดมไปด้วยโพแทสเซียม ช่วยขับโซเดียมออกจากร่างกาย ช่วยควบคุมความดันโลหิต
3. ช่วยย่อยอาหาร: อุดมไปด้วยเส้นใยอาหาร ช่วยในการย่อยอาหารและป้องกันอาการท้องผูก
4. สรรพคุณต้านอนุมูลอิสระ: มีสารต้านอนุมูลอิสระ เช่น เบตาแคโรทีน วิตามินซี วิตามินอี ช่วยปกป้องเซลล์จากอนุมูลอิสระและเสริมสร้างภูมิคุ้มกัน
5. บรรเทาอาการกล้ามเนื้อเกร็ง: อุดมไปด้วยแมกนีเซียม ช่วยคลายกล้ามเนื้อและป้องกันอาการเกร็ง
6. ป้องกันโรคโลหิตจาง: มีธาตุเหล็ก ช่วยป้องกันโรคโลหิตจาง
นอกจากสรรพคุณเหล่านี้แล้ว กล้วยยังมีสารออกฤทธิ์ทางชีวภาพหลายชนิดที่มีประโยชน์ต่อสุขภาพ แต่ก็มีผลข้างเคียงบางอย่างที่ควรระวังในการรับประทาน
แม้จะเป็นผลไม้ที่ดีต่อสุขภาพ แต่การรับประทานมากเกินไปหรือในบางสถานการณ์อาจทำให้เกิดผลข้างเคียงได้ ผลข้างเคียงที่พบบ่อย ได้แก่
1. ปัญหาเกี่ยวกับระบบย่อยอาหาร: แม้จะมีเส้นใยอาหารสูง แต่การรับประทานมากเกินไปอาจทำให้เกิดอาการอาหารไม่ย่อย ท้องอืด ท้องเสียได้ ดังนั้นควรทานในปริมาณที่พอเหมาะ
2. น้ำตาลในเลือดสูง: เนื่องจากมีน้ำตาลสูง อาจทำให้น้ำตาลในเลือดสูงขึ้นอย่างรวดเร็ว ผู้ป่วยโรคเบาหวานหรือผู้ที่ต้องควบคุมระดับน้ำตาลในเลือดควรควบคุมปริมาณการรับประทาน
3. ทำให้โรคไตแย่ลง: เนื่องจากมีโพแทสเซียมสูง อาจเป็นอันตรายต่อผู้ที่มีภาวะไตเสื่อม ในกรณีนี้ควรปรึกษาแพทย์เพื่อกำหนดปริมาณที่เหมาะสม
4. อาการแพ้: แม้จะพบได้น้อย แต่ก็อาจทำให้เกิดอาการแพ้ได้ ดังนั้นควรเริ่มต้นด้วยการรับประทานในปริมาณน้อยๆ และค่อยๆ เพิ่มปริมาณขึ้น หากมีอาการแพ้ควรหยุดรับประทานทันทีและขอความช่วยเหลือจากแพทย์
5. ทำให้ฟันเสียหาย: เนื่องจากมีเนื้อสัมผัสเหนียวหนืด อาจทำให้ติดอยู่ที่ฟันและทำให้เกิดฟันผุได้ ควรแปรงฟันหรือบ้วนปากด้วยน้ำหลังรับประทาน
แคลอรี่ประมาณ 93 กิโลแคลอรีต่อ 100 กรัม ค่อนข้างสูง และมีคาร์โบไฮเดรตประมาณ 21 กรัม ผู้ที่กำลังควบคุมน้ำหนักควรควบคุมปริมาณการรับประทาน
แต่กล้วยช่วยเพิ่มความอิ่มและช่วยลดความอยากอาหาร จึงนิยมใช้ในการควบคุมน้ำหนัก และถ้ารับประทานก่อนออกกำลังกายจะช่วยเติมพลังงานและป้องกันอาการกล้ามเนื้อเกร็งได้ นอกจากนี้ เส้นใยอาหารในกล้วยยังช่วยกระตุ้นการทำงานของลำไส้ ช่วยป้องกันอาการท้องผูกและขับสารพิษออกจากร่างกายได้อีกด้วย
ควรทานวันละ 1-3 ลูก และผู้ป่วยโรคเบาหวานหรือโรคไตควรควบคุมปริมาณการรับประทาน กล้วยที่ยังไม่สุกจะมีแทนนินสูง อาจทำให้เกิดปัญหาเกี่ยวกับระบบย่อยอาหารได้ และการทานกล้วยตอนท้องว่างอาจทำให้น้ำตาลในเลือดสูงขึ้นอย่างรวดเร็ว จึงควรทานหลังอาหาร
· สมูทตี้กล้วย: กล้วย 2 ลูก นม 1 ถ้วย น้ำผึ้ง 1 ช้อนโต๊ะ ปั่นรวมกันในเครื่องปั่นก็จะได้ของว่างที่มีประโยชน์
· แพนเค้กกล้วย: กล้วย 1 ลูก แป้ง 1 ถ้วย ผงฟู 1 ช้อนโต๊ะ ไข่ 1 ฟอง นม 1/2 ถ้วย น้ำตาล 2 ช้อนโต๊ะ เกลือเล็กน้อย ผสมส่วนผสมทั้งหมดเข้าด้วยกันแล้วนำไปทอดในกระทะ สามารถราดด้วยซอสหรือวิปครีมได้
วันนี้เราได้เรียนรู้เกี่ยวกับสรรพคุณและผลข้างเคียงของกล้วยกันแล้วนะคะ เนื่องจากกล้วยทั้งอร่อยและดีต่อสุขภาพ จึงควรทานกล้วยอย่างสม่ำเสมอเพื่อสุขภาพที่ดีขึ้นค่ะ
ความคิดเห็น0